พัทยามีมากกว่าที่คุณคิด!
ธรรมดา แต่ไม่ธรรมดา ทำอะไรดีที่เมืองพัทยา
เมืองพัทยาเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของความหลากหลาย ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักจะใช้เวลาท่องเที่ยวในเมืองพัทยาเพียงแค่ระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น อย่างไรก็ตาม หากเราได้ปักหมุดเมืองพัทยาให้เป็นที่หมายแล้ว แต่ยังไม่แน่ใจว่าควรจะไปเที่ยวตามจุดไหนที่ไม่ซ้ำใคร เอาหละ… ลิสต์สถานที่ต่างๆ ต่อไปนี้อาจจะช่วยเราได้
1. ทริปสั้นๆ ณ เขาชีจรรย์
เขาชีจรรย์ สถานที่สำหรับผู้ที่ต้องการความตื่นตาตื่นใจ
ครั้งหนึ่งเขาชีจรรย์เป็นเพียงภูเขาธรรมดาที่ทางกองทัพไทยใช้ประโยชน์ในด้านการเหมืองแร่ โดยมีการขนส่งถ่านหินไปยังท่าอากาศยานอู่ตะเภาซึ่งในขณะนั้นคือฐานทัพอากาศของสหรัฐอเมริกาในช่วงสงครามเวียดนาม หลังจากสงครามสิ้นสุดลง ได้มีการแปรสภาพเหมืองแร่ให้เป็นโรงงานผลิตวัตถุดิบเพื่อการก่อสร้างขนาดใหญ่ ซึ่งปิดตัวลงในที่สุดเมื่อปี 2519 ต่อมาสมเด็จพระญาณสังวรมีพระดำริที่จะอนุรักษ์ลักษณะภูมิทัศน์อันเป็นธรรมชาติของเขาลูกนี้ไว้ จึงได้ดำเนินการให้มีการสร้างพระพุทธรูปแกะสลักเนื่องในวโรกาศทรงครองสิริราชสมบัติเป็นปีที่ 50 ของพระเจ้าอยู่หัวรัชการที่ 9 โดยในการแกะสลักหินภูเขานั้นได้มีการสำรวจทางด้านธรณีวิทยาอย่างจริงจัง และยิงลำแสงลงบนเนื้อหิน เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จภาพแกะสลักก็ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นพระพุทธฉายที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยความสูงถึง 109 เมตร
2. ท่องเที่ยวรอบเขาพระตำหนัก
นอกจากชายหาดที่มีกิจกรรมทางน้ำสนุกๆ มากมายแล้ว เมืองพัทยายังมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอื่นๆ อีก หนึ่งในนั้นคือ เขาพระตำหนัก
เขาพระตำหนักเป็นเนินเขาทอดยาว กั้นระหว่างหาดพัทยากับหาดจอมเทียน วิวกว้างสุดลูกหูลูกตาของเมืองพัทยาเมื่อมองจากยอดเขา เป็นภาพที่ไม่น่าเชื่อว่าเมืองพัทยาซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นหมู่บ้านชาวประมงได้พัฒนามาเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยความหลากหลายทางวัฒนธรรม และความทันสมัยในระยะเวลาเพียงไม่กี่ทศวรรศ ยอดเขาที่อยู่เหนือระดับน้ำทะเล 100 เมตรยังเป็นที่ตั้งของวัดเขาพระบาทอันเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปขนาดสูงถึง 18 เมตร โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมที่จะขึ้นมาสักการะเป็นช่วงเวลาบ่ายแก่ และในช่วงเย็นซึ่งเป็นเวลาเหมาะในการชมพระอาทิตย์ตกอีกด้วย
3. เป็นอาสาสมัคร ณ มูลนิธิคุณพ่อเรย์
อีกหนึ่งกิจกรรมที่จะทำให้ทริปนี้เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มจากการได้เป็นผู้ให้ และผู้รับคือ การเป็นอาสาสมัคร ณ มูลนิธิคุณพ่อเรย์ ซึ่งถูกก่อตั้งโดยบาทหลวงชาวอเมริกันนามว่า “คุณพ่อเรย์” ในช่วงเริ่มแรกเด็กๆ ที่ถูกรับมาอุปการะนั้นเป็นผลพวงมาจากการก่อตั้งฐานทัพอเมริกันระหว่างสงครามเวียดนาม ในเวลาต่อมาด้วยคำบอกเล่าปากต่อปากจึงได้เกิดการก่อตั้งเป็นมูลนิธิขึ้นมาอย่างจริงจัง ปัจจุบันมูลมีเด็กๆ ด้อยโอกาสจำนวนกว่า 850 คนอยู่ภายใต้การอุปถัมป์ของมูลนิธิฯ ณ มูลนิธิคุณพ่อเรย์ เราสามารถสนับสนุนเงินทุน มื้ออาหาร หรือสามารถแวะไปเยี่ยมเยียนน้องๆ ได้อีกด้วย
4.ทริปเรียนรู้ ณ หมู่บ้านช้าง
ช้างเป็นสัตว์ประจำชาติของประเทศไทยอันมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งตั้งแต่สมัยโบราณเป็นต้นมา หมู่บ้านช้างเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของช้างไทย จึงได้จัดตั้งศูนย์การเรียนรู้เกี่ยวกับช้างไทยขึ้น ณ หมู่บ้านช้าง เราสามารถเรียนรู้ความเป็นอยู่ของช้างจำนวนกว่า 20 เชือกที่ถูกเลี้ยงดูในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม โดยมีพนักงานจำนวนกว่าร้อยคนคอยดูแลเพื่อให้ช้างทุกเชือกมีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี นอกจากจะสามารถถ่ายรูปและเรียนรู้พฤติกรรมของช้าง เรายังสามารถชมทัศนียภาพเขียวขจีของป่าเขาในขณะที่นั่งบนหลังช้าง หรือนั่งเกวียน แถมยังมีกิจกรรมตื่นเต้นเช่นกิจกรรมขับรถ ATV และการล่องแพ นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ผ้าไหมไทยเพื่อการเรียนรู้ ยิ่งไปว่านั้น ณ หมู่บ้านช้างยังมีพิพิธภัณฑ์พระพิเนศให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปสักการะบูชาอีกด้วย กิจกรรมหลากหลายเหมาะสำหรับคนทุกวัยเช่นนี้จะพลาดไม่ได้แล้ว
หมู่บ้านช้างเปิดตั้งแต่เวลา 8.00 น. จนถึง 18.00 น. จันทร์ - อาทิตย์ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเข้าไปชมได้ที่เว็บไซต์ http://www.elephant-village-pattaya.com/
5. อาบแดดกัน ณ หาดบ้านอำเภอ
ในขณะที่ผู้คนส่วนใหญ่นิยมทำกิจกรรมกลางแจ้งกันที่หาดพัทยา หรือหาดจอมเทียน แต่ยังมีอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความสงบ นั่นก็คือหาดบ้านอำเภอนั่นเอง
“บ้านอำเภอ” มักรู้จักกันว่าเป็นหมู่บ้านชาวประมง จึงมีน้อยคนนักที่รู้ว่าหาดทรายของหาดบ้านอำเภอนั้นสวยงาม และเงียบสงบ ด้วยระยะทางไม่ไกลจากเมืองพัทยา และหาดจอมเทียนนัก ทำให้หาดบ้านอำเภอเปรียบเสมือนอัญมณีล้ำค่าที่หลบซ่อนอยู่ภายใต้ความวุ่นวายของเมืองใหญ่ นอกจากจะหาดสวยๆ และบรรยากาศที่ไม่พลุกพล่านแล้วแล้ว บ้านอำเภอยังมีร้านอาหารทะเลให้ท่านได้เลือกชิมกันเพลิน การันตีความสดใหม่จากทะเลกันเลยทีเดียว
6. เหล่านักช๊อปห้ามพลาด ตลาดนัดเทพประสิทธิ์
สำหรับท่านที่ชื่นชอบการจับจ่ายใช้สอยเป็นชีวิตจิตใจ มั่นใจได้เลยว่าตลาดนัดเทพประสิทธิ์ไม่เคยทำให้ขาช๊อปผิดหวัง ตลาดนัดเทพประสิทธิ์เป็นแหล่งรวมของทุกสิ่งอย่าง ไม่ว่าจะเป็นของที่ระลึก เสื้อผ้ามือหนึ่ง - มือสอง เครื่องประดับ หรือแม้แต่อาหารท้องถิ่น มาที่เดียวได้ครบ
อย่าพลาด! ตลาดนัดเทพประสิทธิ์ เปิดเฉพาะวันศุกร์ - วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 5 โมงเย็นเป็นต้นไป